คมชัดลึก : กีฬา

Saturday, July 19, 2008

ยล(ประติมากรรม)ช้างเอราวัณ ใหญ่ที่สุดในโลก

หากว่าใคร เคยผ่านไปตรงเส้นทางถนนสุขุมวิทสายเก่าผ่านบางนา เลยแยกปู่เจ้าสมิงพรายก่อนถึงตัวเมืองสมุทรปราการ ทางซ้ายมือจะพบกับสิ่งชวนตะลึงอ้าปากตาค้าง กับอาคารสิ่งก่อสร้างรูปทรงช้างสามเศียร ที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา ดูอลังการงานสร้างมากๆ ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกลจากริมถนน และเมื่อได้เข้ามาใกล้ ๆ ตรงบริเวณด้านหน้าของอาคารที่ว่า จะเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากมาย มีทั้งคนขายดอกไม้ เครื่องบูชา และผู้คนที่มากราบไหว้ เดินกันให้ไขว่อยู่บริเวณด้านหน้า ซึ่งผู้คนจำนวนมากมายังสถานที่แห่งนี้ก็เพราะว่ามาเพื่อที่จะขอโชคลาภ เพราะเชื่อกันว่าสิ่งก่อสร้างนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเหตุที่ผู้คนจำนวนมาก เชื่อว่าช้างสามเศียรนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ก็เพราะว่า ช้างสามเศียรนี้ มีชื่อเรียกว่า “ช้างเอราวัณ” ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ ณ “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” ซึ่งถือว่าเป็นประติมากรรมช้างเอราวัณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทำด้วยวิธีเคาะมือ

“พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” แห่งนี้ ก่อกำเนิดมาจากแนวคิดและจินตนาการอันเปี่ยมล้น ของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างนานนับ 10 ปี กว่าจะได้มาซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงยิ่งใหญ่ระดับโลก

สำหรับ “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” ตัวอาคารมีความสูงเท่ากับตึกสูงประมาณ 17 ชั้น ความสูงจากพื้นดินถึงโหนกหัวช้าง 43.60 ม. ส่วนตัว “ช้างเอราวัณ” ที่ตั้งอยู่ด้านบนตัวอาคาร มีความสูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร. ยาว 39 เมตร. น้ำหนักตัวช้างรวม 250 ตัน ส่วนลำตัวหนัก 150 ตัน ส่วนเศียรหนัก 100 ตัน และใช้ทองแดงบริสุทธิ์ เคาะด้วยมือในการทำผิวช้าง หากเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์ พื้นที่ด้านหน้าตัวอาคาร ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จัดเตรียมพวงมาลัย ดอกไม้ ธูป และแผ่นทอง เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ผู้เชื่อถือได้นำไปกราบไหว้และปิดทองรูปจำลองช้างเอราวัณ และก็จะมีดอกบัวมาให้ลอย ซึ่งการลอยดอกบัวที่สระน้ำข้างฐานของอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ ถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของชาวศรีลังกา ที่ว่าการลอยดอกบัวถือเป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิต และเมื่อเดินเข้ามายังตัวอาคาร ด้านล่างจะมีระเบียงรอบเป็นวงกลม มีทางเข้าภายในอาคารได้หลายทาง ภายในแบ่งการจัดแสดงเป็น 3 ส่วน ตามลักษณะไตรภูมิ คือ ชั้นล่างสุดเป็นชั้นบาดาล มีรูปปั้นมนุษย์นาคตั้งอยู่เหนือน้ำตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางเป็นสัญลักษณ์ ภายในชั้นนี้มีการจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องถ้วยชามสังคโลก พระพุทธรูป รวมไปถึงการจัดนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของการสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ชีวิตและผลงานของคุณเล็ก และคุณพากเพียร วิริยะพันธุ์


ส่วนที่สอง คือ ชั้นมนุษยโลก ซึ่งมีทางเข้าเป็นซุ้มประตูถึง 8 ประตู และด้านบนของแต่ละซุ้มแกะสลักปูนปั้นเป็นรูปเทวดาประจำวันทั้ง 7 (แต่ที่มี 8 ซุ้ม เพราะวันพุธมีกลางวันและกลางคืน) ที่มีความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมปูนปั้นเป็นอย่างมาก และภายในชั้นนี้ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ด้วยลวดลายปูนปั้นประดับเบญจรงค์ฝีมือศิลปิน และช่างจากจังหวัดเพชรบุรี มีซุ้มพระเกตุทรงพระขรรค์ และมีเก๋งจีนที่ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมอายุเก่าแก่ถึง 1,300 ปี เป็นสัญลักษณ์ ส่วนบนเพดานถูกประดับตกแต่งด้วยกระจกสี ออกแบบเป็นรูปทวีปทั้ง 5 และรูปกลุ่มจักรราศี เป็นผลงานของศิลปินชาวเยอรมันชื่อนาย Mr. Schwarzkopf


ส่วนที่สาม คือ ชั้นสวรรค์ เป็นชั้นที่อยู่ในตัวช้าง สามารถขึ้นไปได้โดยทางบันไดวนที่ขาหลังช้างด้านขวา หรือขึ้นลิฟต์ที่ ขาหลังข้างด้านซ้าย ชั้นนี้ที่เพดานด้านบนเต็มไปด้วยหมู่ดาวพระเคราะห์น้อยใหญ่ ดวงอาทิตย์แดงสดลูกโต กลุ่มดาวทางช้างเผือก และเหล่าอุกาบาตดาษดื่นทั่วฟ้าเพดาน ซึ่งเป็นภาพวาดเขียนสีฝุ่นของศิลปินคนเดียวกับที่วาดภาพกระจกสี และตรงกลางท้องจักรวาลนี้มีพระพุทธรูปปางลีลาเป็นพระประธาน ที่ถอดแบบจำลองมาจากวัดเบญจมบพิตรและบนยอดพระเกตุมาลามีพระบรมธาตุบรรจุอยู่ ถัดขึ้นไปด้านบนประดิษฐานพระพุทธสิงหิงค์จำลอง และพื้นที่รอบๆ ทั้ง 2 ด้าน มีพระพุทธรูปและเทวรูปต่างๆ ที่คุณเล็กสะสมไว้จัดแสดงให้ได้ชมกัน นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ 11 ไร่ ยังจัดเป็นอุทยานพรรณไม้ มีหมู่อาคารสำหรับพักผ่อน และจัดงานแสดงประติมากรรมลอยตัวเรื่องรามเกียรติ์ รวม 134 ตอน ตั้งแต่ตอนกำเนิดนางสีดาจนกระทั่งกรุงลงกาแตก

หากใครมาเที่ยวที่ “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” แห่งนี้แล้ว จะได้รับความรู้ในเชิงช่างหลายอย่าง ได้ชมศิลปะเชิงช่างที่สวยงามวิจิตรและหาชมได้ยาก รวมทั้งได้ชมโบราณวัตถุที่มีค่า และได้พักผ่อนหย่อนใจในทัศนียภาพโดยรอบ ที่สำคัญจะได้มาเคารพสักการะองค์ “ช้างเอราวัณ” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองอีกด้วย ส่วนใครที่ยังติดใจกับผลงานอันยอดเยี่ยมของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เลยจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณไปตามถนนสุขุมวิทสายเก่าทางสถานตากอากาศบางปู ก็จะพบกับแหล่งรวมงานศิลปะ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม และของดีสารพัดอย่างทั่วไทย ที่เมืองโบราณที่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองปากน้ำที่ใครชอบงานศิลปะไทยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ รถประจำทางสาย 25, 142, 365 และรถปรับอากาศสาย ปอ.102, ปอ.507, ปอ.511, ปอ.536

ค่าบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ พร้อมสักการะผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 น.-18.00น. โดยมีไกด์นำชมพร้อมอธิบายรายละเอียด โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2371-3135-6


3 comments:

  1. หนูอยากปัยกราบพ่อช้างเอราวัณจัง เพราะหนูอยากใหัมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เพราะว่าปีหน้านี้หนูตั้งใจจะลองสอบแอร์โฮสเตรทค่ะก็เลยอยากให้มีสิ่งดีๆเข้ามาบ้าง

    ReplyDelete
  2. คิดดี ทำดี พระเจ้าคุ้มครอง

    ReplyDelete