คมชัดลึก : กีฬา

Sunday, October 26, 2008

วัดถ้ำเสือ-วัดถ้ำเขาน้อย"

หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัดวาอารามในจังหวัดกาญจนบุรี ในสายตาของใครหลายคนอาจจะดูสู้แหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตก ป่าเขา เขื่อน และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ไม่ได้ แต่กระนั้นเมืองกาญจน์ ก็นับเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีวัดวาอารามน่ายลอยู่มากมาย ดังเช่น 2 วัด ต่อไปนี้

วัดแรก คือ “วัดถ้ำเขาน้อย” ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง ซึ่งเป็นวัดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะแบบจีนที่สวยงามและโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา


วัดถ้ำเขาน้อยแห่งนี้ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2426 โดยมีหลวงปู่แห้ง(กั๊กเง้ง) เป็นพระจีนมาพำนักเป็นรูปแรก ต่อมามีพระจีนอีก 2 รูปมาปกครองดูแล ต่อจากนั้นก็มีพระญวน คือพระอาจารย์เตี๊ยบถ่อมาพำนักปกครองดูแลเมื่อปี พ.ศ.2457 นับแต่นั้นมาก็มีพระสงฆ์ญวนอีกหลายรูปมาปกครองดูแลตามลำดับมาจนถึงพระอาจารย์กิจ ตัยเฟือง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในปัจจุบัน กรมศาสนาได้มาสำรวจสภาพวัดและได้ออกหนังสือรับรองสภาพวัดถ้ำเขาน้อยเป็นวัดฝ่ายอนัมนิกายโบราณอายุประมาณ 100 ปีเศษ

เมื่อเขาไปภายในวัดจะเจอกับพระศรีอริยเมตตรัย ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่เบื้องหน้า ด้านข้างติดกับพระประธานมี เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ผู้คนที่มายังวัดแห่งนี้จะนิยมขอพรในเรื่องของโชคลาภเงินทองกันเป็นจำนวนมาก ด้านข้างของพระประธานทั้งสองด้านมีพระพุทธรูป 18 พระอรหันต์

ถัดจากพระประธาน เดินเลยเข้าไปด้านข้างทั้งสองข้างจะมีบันไดค่อยๆคดเคี้ยวขึ้นไปยังด้านบน ระหว่างทางมีจุดพักเป็นระยะๆ และมีรูปเคารพเทพเจ้าต่างๆ เมื่อขึ้นไปถึงยังด้านบนยอดเขาวัดถ้ำเขาน้อยเป็นที่ตั้งของเก๋งจีน 7 ชั้น เปรียบได้กับสวรรค์ทั้ง 7 ชั้น

ด้านล่างสุดของเก๋งจีนนี้ประดิษฐานพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เมื่อขึ้นบันไดไปยังชั้นถัดไป ๆ ในแต่ละชั้นประดิษฐานพระพุทะรูปปางต่างๆ จนถึงชั้นบนสุดคือชั้นที่ 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระสังฆราชในนิกายจีนของวัดมังกรประธานให้

ติดกับวัดถ้ำเขาน้อย คือ “วัดถ้ำเสือ” (Wat Sua Cave) สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย จากคำบอกเล่าต่อๆกันมา วัดถ้ำเสือแห่งนี้เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ อยู่ในถ้ำบนเขาซึ่งถือกำเนินมากว่า 100 ปี แต่เดิมภายในถ้ำมีพระพุทะรูปศิลาแลงซึ่งชำรุดหักพังมากมาย มีผู้บอกกล่าวกันต่อๆมาว่าพระพุทะรูปเหล่านั้นเกิดการชำรุดเนื่องจากถูกทหารพม่าทำลายเมื่อครั้งที่ได้ยกทัพผ่านมา โดยใช้เส้นทางด่านพระเจดีย์ 3 องค์เป็นเส้นทางเดินทัพ

ในปี พ.ศ.2516 ได้มีการวางแผ่นฤกษ์สร้างหลวงพ่อชินน์ประทานพร หรือ พระพุทธชินราช ประทับปางประทานพร ขนาดใหญ่สีทองอร่ามโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา มีพุทธลักษณะที่สวยงามมาก ต่อมาในปี พ.ศ.2518 ได้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายยาว 1.50 เมตร ลึก 2.50 เมตร มีน้ำซึมตลอดเวลา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ.2520 และในปีเดียวกันก็ได้จัดสร้างพระอุโบสถอัฏมุข หรือพระอุโบสถ 8 มุข เป็นลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตร ภายในพระอุโบสถมีภาพเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ สำหรับพระอุโบสถ 8 มุขนี้ไม่มีที่ใดสร้าง แต่ที่วัดถ้ำเสือสร้างขึ้นด้วยมโนภาพ ด้วยจิตสำนึกที่พระอรหันต์มาประชุมและกราบทูลพระพุทธเจ้าออกเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้ง 8 ทิศ

ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2527 ได้สร้างพระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท สูง 75 เมตร ภายในโปร่งมี 9 ชั้น มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุด้านบนยอดสุดของพระเจดีย์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในปราสาทจุฬามณีบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท เมื่อ พ.ศ.2533 ที่ผ่านมา

หากใครมีโอกาสแวะเวียนไปเมืองกาญจน์ก็อย่าลืมที่จะไปสักการะพระบรมธาตุกันได้ที่วัดถ้ำเขาน้อยและวัดถ้ำเสือ ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
ขอขอบคุณ เรื่องจากผู้จัดการออนไลน์ ภาพจาก thaimtb.com

3 comments:

  1. hola
    http://pescaenourense.blogspot.com/

    ReplyDelete
  2. วัดถ้ำพระพุทธไสยาสน์ (ถ้ำพระทอง)

    วัดถ้ำพระพุทธไสยาส.blogspot.com/

    **ฝาก Blog วัดถ้ำพระพุทธไสยาสน์ (วัดถ้ำพระทอง) ด้วยนะครับ**

    ReplyDelete