คมชัดลึก : กีฬา

Sunday, February 3, 2008

คุณทำร้ายกระดูกของคุณหรือเปล่า?

ช่วงอายุ 25-35 ปี กระดูกจะมีความแข็งแรงมากที่สุด หลังจากนั้นความแข็งแรงของกระดูก็จะค่อยๆลดลง ในขณะที่อายุคุณมากขึ้น คุณต้องดูแลกระดูกของคุณด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้



อาหารขยะ จากสถิติพบว่า การมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าที่ควร ทำให้กระดูกเสื่อม การอดอาหารมากเกินไปอาจทำให้ร่างากยได้รับไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่เพียงพอ ซึ่งจะเป็นผลให้ประจำเดือนขาดหายไป และเป็นผลให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนอื่นๆที่ผลิตในรังไข่มีปริมาณลดลง ฮอร์โมนเหล่านี้จำเป็นต่อการรักษาระดับความหนาแน่นของกระดูก คุณจึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยแคลเซียม

เครื่องดื่มที่มีฟองฟู่ เครื่องดื่มพวกคาร์บอเนตจะผสมกรดฟอสฟอริก ซึ่งสามารถทำให้กระดูกไม่แข็งแรง เพราะดึงเอาแคลเซียมออกมา ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทมีฟองที่ผสมด้วยคาเฟอีนด้วย เพราะคาเฟอีนจะทำให้แคลเซียมดูดซึมได้น้อยลง และเลือกดื่มแต่เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อกระดูก เช่น นมไขมันต่ำ นมถั่วเหลือง โยเกิร์ตปั่น

โปรตีนมากเกินไป โปรตีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนสึกหรอกของร่างกาย แต่โปรตีนจากสัตว์มีผลเสียต่อความหนาแน่นของกระดูก ด้วยการเพิ่มความเป็นกรดในเลือด โปรตีนทำให้ร่างกายคุณ "ขโมย" แคลเซียมออกจากกระดูก เพื่อทำให้กรดเหล่านั้นมีความเป็นกลางเพิ่มขึ้น

สูบบุหรี่และดื่มเหล้า การสูบบุหรี่จะทำให้แคลเซียมดูดซึมได้น้อยลง และลดปริมาณของเอสโตรเจนนิโคตินจะไปขัดขวางออกซิเจนที่ไปเลี้ยงกระดูก และมีผลเป็นพิษต่อเซลล์กระดูกและมันยังทำให้เซลล์ที่ใช้ในการสร้างกระดูก (ออสติโอบลาส) มีการผลิตที่ช้าลง รวมทั้งยับยั้งขบวนการต่างๆของกระดูกด้วย จากการศึกษาพบว่า กระดูกของพวกที่สูบบุหรี่มีคุณสมบัติทางไบโอเคมีด้อยกว่ากระดูกของพวกที่ไม่สูบบุหรี่ ดังนั้นมันจึงหักง่าย การดื่มไวน์มากกว่าสองแก้วต่อวันก็สามารถทำให้กระดูกของคุณเปราะบางได้

ชีวิตที่เคร่งเครียด เพื่อที่จะต่อสู้กับความเครียด ร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นในรูปของน้ำตาลกลูโคส ดังนั้นมันจึงปล่อยฮอร์โมนชื่อคอร์ติซอลออกมา "คอร์ติซอลทำให้กล้ามเนื้อของคุณปลดปล่อยโปรตีนออกมากเพื่อใช้ในการผลิตกลูโคส" สิ่งนี้จะนำไปสู่การที่กล้ามเนื้อค่อยๆเล็กลงและทำให้มีการสูญเสียแร่ธาตุของกระดูก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องลดระดับความเครียดลง และออกกำลังกายช่วย


ยาบางชนิด ยาบางอย่างรบกวนการดูดซึมของแคลเซียม ซึ่งได้แก่ยาขับปัสสาวะ ยาแก้อักเสบที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ ยารักษาโรคหืดหอบที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ และยาปฎิชีววนะหลายชนิด การที่รับประทานยาตัวใหม่ๆให้หาดูว่ามันจะรบกวนการดูดซึมของแคลเซียมหรือไม่ ถ้าใช่ และคุณก็จำเป็นต้องใช้ ให้ปรึกษาแพทย์ดูว่าคุณจะหาอะไรที่ดีที่สุดแทนได้บ้าง


ขอขอบคุณ ผู้หญิงนะคะดอทคอม

No comments:

Post a Comment