คมชัดลึก : กีฬา

Wednesday, March 4, 2009

เที่ยว “ปทุม” สนุกง่าย ๆ ใกล้กรุงเทพ


(ท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่ที่เมืองปทุม)
วันนี้ ท่านผู้นำเที่ยวพาก๊วนเพื่อนรู้ใจไปไหนไปกันไปเที่ยวแบบสบาย ๆ ใกล้กรุงชนิดที่บางคนยังไม่รู้เลยว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่เขตกรุงเทพฯแล้ว เอ๊า!!อย่าได้งง เมืองที่ว่านี้ก็คือจังหวัด “ปทุมธานี” ถิ่นบัวหลวงนี่เอง
(ภายในอนุสรณ์สถานโชว์ชุดเครื่องแบบทหารตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน)

โดยการเที่ยวครั้งนี้ ไม่ได้เที่ยวแบบไก่กาทั่วไปนะ แต่เป็นการเที่ยวที่สนุกเพลิดเพลินและได้ความรู้อีกด้วย อย่าได้รีรอ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” และก๊วนเพื่อนขับรถกันแบบชิลล์ๆ มาถึงยังที่สถานที่แรกที่เรามักจะผ่านไปผ่านมาจนคิดว่านี่คือกรุงเทพฯ แต่แท้จริงแล้ว อาคารทรงแปดเหลี่ยมคล้ายป้อมค่ายหอรบสมัยโบราณดูแปลกตาแต่สวยงามนั้นคือ “อนุสรณ์สถานแห่งชาติ” ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี


ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาตินี้ เป็นสถานที่ที่เราจะได้ภาคภูมิใจกับ 9 มหาราชของเราชาวไทย ซึ่งก็คือพระมหากษัตริย์ที่ได้เคยทรงทำคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงให้กับประเทศชาติและปวงชนชาวไทยภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารจนได้รับการขนานนามให้ทรงเป็นมหาราช

(บัวสวย ๆ ในพิพิธภัณฑ์บัว)


นอกจากพระบรมรูปมหาราช 9 พระองค์ในอาคารประกอบพิธีแล้ว ที่อาคารประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร หรืออาคารรูปทรงแปดเหลี่ยม คล้ายป้อมค่ายหอรบสมัยโบราณอันโดดเด่นนี้ ได้จัดแสดงนิทรรศการไว้ทั้งหมด 4 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 จัดแสดงหุ่นจำลองเหตุการณ์สงครามที่กองทัพไทยได้ปฏิบัติการรบครั้งใหญ่ๆไว้ 5 เหตุการณ์ ชั้นที่ 2 จัดตกแต่งเป็นห้องเกียรติยศ เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ทหาร ตำรวจและพลเรือนที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ถัดไปชั้นที่ 3 แสดงหุ่นจำลองเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศชาติไทยของเรา และชั้นที่ 4 จัดแสดงวิวัฒนาการของเครื่องแบบ เครื่องหมายยศและส่วนประกอบของเครื่องแบบทหาร ตำรวจ ในสมัยต่างๆตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

และอาคารสุดท้ายคืออาคารภาพปริทัศน์ เป็นอาคารทรงแปดเหลี่นม ผนังภายในอาคารโค้งเป็นวงกลมยาวโดยรอบ 90 เมตร มีจิตกรรมฝาผนังประกอบเสียงและคำบรรยายแสดงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ได้เดินชมจนทั่วแล้วก็บังเกิดความรู้สึกฮึกเหิม พร้อมทั้งรู้สึกซาบซึ้งถึงความกล้าหาญและเสียสละของบรรพบุรุษไทยที่ปกป้องเอกราชของไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ บางทีพวกนายทุนหรือนักการเมืองบางคนควรจะมาศึกษาดูงานที่นี่ไว้ เผื่อจะเกิดความรู้สึกรักชาติ ไม่เอาประเทศชาติที่เหล่าบรรพบุรุษได้ปกป้องรักษามาด้วยชีวิตไปขายอย่างหน้าชื่นตาบานเช่นทุกวันนี้


(หอจดหมายเหตุแห่งชาติ)

ซึมซับความรักชาติกันแล้ว ก็เดินทางแบบสบายๆไปต่อกันที่ “พิพิธภัณฑ์บัว” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมและเพาะพันธุ์บัวกว่า 200 พันธุ์ ทั้งบัวพันธุ์ไทยพื้นเมือง พันธุ์ต่างประเทศและพันธุ์ผสม ทั้งในรูปแบบที่อยู่ในกระถางและบึงน้อยใหญ่ และนอกจากความสวยงามของดอกบัวแล้ว เรายังสามารถนำบัวไปใช้ประโยชน์ได้มากมายทั้งนำไปบูชาพระ นำมาทำอาหาร

และที่พิพิธภัณฑ์บัวแห่งนี้ก็ยังเอาบัวมาทำเป็นชาบัวอีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าบัวสวยงามเพียงใด และชาบัวรสชาติเป็นเช่นไร ก็ต้องแวะมาสัมผัสของจริงกันที่พิพิธภัณฑ์บัว ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และขอแนะนำว่าการชมบัวควรจะมาประมาณช่วงสาย ๆ เพราะอากาศดีไม่ร้อน และที่สำคัญจะได้ชมความงามของบัวบานกลางคืนและบัวบานกลางวันควบคู่กัน

(นิทรรศการภายใน อพวช. นักท่องเที่ยวสามารถทดลองได้ด้วยตัวเอง)

เต็มอิ่มกับดอกบัวอันสวยงามหลากสีแล้ว ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์บัวเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต” หรือ “ท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่” ที่ดูไฮเทค ภายในมีนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อาทิ โลกดาวเคราะห์ โลกล้านปี มหัศจรรย์แห่งชีวิต ดาราศาสตร์และอวกาศ เป็นต้น

และที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คงจะหนีไม่พ้น ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเมื่อเข้าไปภายในท้องฟ้าจำลองที่มืดสนิทแล้ว ก็จะมีการจำลองท้องฟ้าให้พวกเราได้เห็นถึง 180 องศา เลยทีเดียว นอกจากนั้นก็มีการฉายภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Kaluoka'hina ผู้พิทักษ์ท้องทะเล ที่สนุกเพลิดเพลิน และ Infinity ซึ่งเป็นภาพยนตร์สามมิติเกี่ยวกับการพาไปสำรวจอวกาศที่น่ารู้ โดยจะมีฉายเป็นรอบ ๆ ดังนั้นเช็ครอบฉายไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้พลาด

(อาคารองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติแปลกตาด้วยรูปทรงเลขาคณิตที่ดูทันสมัย)


ตื่นตาตื่นใจกับท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่แล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปยัง “หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” ต.คลองห้า อ.คลองหลวง แค่เห็นด้านหน้าก็ดูอลังการโดดเด่นด้วยรูปแบบอาคารสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ สมัยรัชกาลที่ 9 มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร 4 ส่วนมีทางเชื่อม ประกอบด้วยอาคารส่วนที่ 1 เป็นอาคารเอกสารจดหมายเหตุมี 9 ชั้น อาคารส่วนที่ 2 คืออาคารให้บริการค้นคว้า อาคารส่วนที่ 3-4 จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดำริ ซึ่งคาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมศกนี้

สำหรับนิทรรศการถาวรที่เปิดให้เข้าชมแล้วได้แก่ นิทรรศการแสงหนึ่งคือรุ้งงาม เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จัดแสดงพระประวัติ พระกรณียกิจ พระอัจริยภาพในด้านต่างๆของพระองค์อย่างละเอียด โดยแบ่งเป็น 4 โซนได้แก่ โซนส่งเสด็จ โซนแสงหนึ่ง โซนในความทรงจำ และโซนรุ้งงาม ซึ่งไม่เน้นคำบรรยายแต่ให้ทุกคนได้มองและระลึกถึงพระจริยภาพของพระองค์อย่างมีจินตนาการ

(นิทรรศการพลังงานและกำลัง ภายในอพวช.)


สถานที่ถัดไปขอพาไปต่ออารมณ์กันที่ “หออัครศิลปิน” ต.คลองห้า อ.คลองหลวง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์ในหลวง เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 50 ปีเพื่อแสดงผลงานอันทรงคุณค่าทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมของพระองค์ในฐานะที่ทรงเป็น "อัครศิลปิน"

ภายในหออัครศิลปินแบ่งส่วนเป็นห้องตามศิลปะประเภทต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบรรดาเหล่าศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ เช่นวรรณกรรม หัตถกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้มีการจัดแสดงพระราชประวัติ และพระอัจฉริยภาพที่บริเวณชั้น 2 และบนชั้น 3

(สถาปัตยกรรมอนุสรณ์สถานที่คุ้นหน้าคุ้นตา)


โดยในชั้น 2 เป็นการนำเสนอในรูปแบบวีดีโอเป็นจำนวน 9 ตอน แต่ละตอนบ่งบอกถึงพระปรีชาด้านต่างๆ เช่น พระปรีชาสามารถในการสร้างเรือใบ "ซูเปอร์มด" ส่วนชั้นที่ 3 นำเสนอภาพความเป็นอัครศิลปินที่รายล้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ ภาพความเป็นมิ่งขวัญแก่ศิลปินทุกแขนง นอกจากนี้ยังจัดแสดงผลงานด้านคีตศิลป์ และภาพฝีพระหัตถ์ที่หาชมได้ยากอีกด้วย

สถานที่อันเป็นดั่งองค์ความรู้ควบคู่ความเพลิดเพลินที่สุดท้ายในทริปนี้ก็คือ “องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ” หรือ อพวช. ต.คลองหก อ.คลองหลวง ซึ่งก็มีรูปแบบอาคารที่น่าสนใจเช่นกัน โดยออกแบบอย่างทันสมัยที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง ด้วยความแปลกใหม่ของโครงสร้างและใช้รูปทรงเลขาคณิตให้เป็นอาคารรูปลูกบาศก์จำนวน 3 รูปยึดติดกัน ภายในแบ่งเป็น 6 ชั้น แต่ความสูงโดยรวมเท่ากับอาคารทั่วไป 12 ชั้น


(ภายในพิพิธภัณฑ์บัวมีบัวมากมายหลายชนิดทั้งบัวดอกและบัวใบ)

สำหรับชั้นที่ 1 เป็นส่วนของการต้อนรับและแนะนำการเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ชั้นที่ 2 เป็นประวัติการค้นพบและการประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นที่ 3 คือวิทยาศาสตร์พื้นฐาน อุโมงค์พลังงาน และโรงภาพยนตร์ ชั้นที่ 4 ได้แก่ วิทยาสาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับประเทศไทย อาทิ โลกของเรา สิ่งแวดล้อม สิ่งก่อสร้างและโครงสร้าง เกษตรกรรม ชั้นที่ 5 เป็นวิทยาสาสตร์และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน เช่น ร่างกายของเรา การคมนาคม คุณภาพชีวิต และชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ 6 ได้แก่เทคโนโลยีภูมิปัญญาไทย


(เด็ก ๆ เพลิดเพลินกับการทดลองนิทรรศแรงโน้มถ่วงและระบบสุริยะ)

ซึ่งใน อพวช. แห่งนี้ พวกเราได้สนุกสนานกับการทดลองและเกมต่างๆมากมาย ชนิดที่ว่าถึงจะโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วก็มีสิทธิที่จะสนุกเพลิดเพลินกันได้แบบไม่ต้องอายใคร เอ๊า!!ว่างกันวันไหนก็ไม่ต้องรีรอ แวะเวียนมาเที่ยวเมืองบัวหลวงปทุมธานีกันได้ใกล้แค่นี้เอง


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต.คูคต อ.ลำลูกกา เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.00 น. โทร.0-2532-1021, พิพิธภัณฑ์บัว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ต.คลองหก อ.ธัญบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. โทร.0-2549-3042-3,ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ต.คลองหก อ.ธัญบุรี เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. โทร.0-2577-5456-9,หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00น. โทร.0-2902-7946-7,หออัครศิลปิน ต.คลองห้า อ.คลองหลวง เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00น. โทร.0-2986-5020-4,องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) ต.คลองหก อ.คลองหลวง เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-17.00 น. โทร.0-2577-4172-8,หรือสอบถามข้อมูลเส้นทางท่องเที่ยวปทุมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.ปทุมธานี โทร. 0-2904-6503 หรือที่ ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ โทร.0-2250-5500

ขอขอบคุณ ผู้จัดการท่องเที่ยว

1 comment: